วัตถุประสงค์ของแบบฝึกหัด

แบบฝึกหัดนี้ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้ผู้อ่านมีโอกาส 1) ทบทวนเนื้อหา และ 2) ค้นคว้าความรู้เพิ่มเติม โดยผ่านกระบวนการสื่อสารแบบถาม-ตอบ ระหว่างผู้เขียน-ผู้อ่าน เท่านั้น โดยไม่มีเจตนาวิเคราะห์ข้อสอบเก่าหรือแนวข้อสอบแต่อย่างใด

1) แบบฝึกหัดจับคู่

คำอธิบาย : เลือก ตัวอักษร หน้าคำบรรยายด้านขวา และเติมในช่องว่างด้านซ้ายของแต่ละข้อที่มีความสัมพันธ์กัน

1._____ก.พื้นที่จ่ายน้ำ (discharge area)
2._____ข.ชั้นหินกันน้ำ (confining bed)
3._____ค.หลักวัน
4._____ง.หลักปี
5._____จ.บ่อน้ำบาดาลมีแรงดัน (artesian well)
6._____ฉ.หลักร้อยปี
7._____ช.พื้นที่รับน้ำ (recharge area)
8._____ซ.หลักพันปี
9._____ฌ.ระดับน้ำใต้ดิน (water table)
10._____ญ.ชั้นหินอุ้มน้ำไม่มีขอบเขต (unconfined aquifer)
แบบจำลองแสดงการจำแนกชั้นหินตามศักยภาพในการเป็นชั้นน้ำบาดาล พื้นที่รับและจ่ายน้ำ

2) แบบฝึกหัดถูก-ผิด

คำอธิบาย : เติมเครื่องหมาย T หน้าข้อความที่กล่าวถูก หรือเติมเครื่องหมาย F หน้าข้อความที่กล่าวผิด

1._____ธารน้ำแข็งคือแหล่งน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดบนโลก
2._____น้ำใต้ดินเกิดจากน้ำฝนหรือหิมะที่ละลายบนพื้นผิวแล้วซึมผ่านชั้นดินและหินลงไปใต้พื้นดิน
3._____หินที่มีความพรุนสูงโดยส่วนใหญ่มีความสามารถในการซึมผ่านได้สูงตามไปด้วย
4._____หินที่มีความสามารถในการซึมผ่านได้สูง โดยส่วนใหญ่มีความพรุนสูงตามไปด้วย
5._____ระดับน้ำใต้ดิน (water table) คือระดับบนสุดชั้นหินอุ้มน้ำ
6._____หินทราย (sandstone) ปกติจะมีความพรุนสูงเมื่อเปรียบเทียบกับหินชนิดอื่นๆ
7._____หินทราย (sandstone) ปกติจะมีความสามารถในการซึมผ่านได้ได้สูงเมื่อเปรียบเทียบกับหินชนิดอื่นๆ
8._____หินดินดาน (shale) ปกติจะมีความพรุนสูงเมื่อเปรียบเทียบกับหินชนิดอื่นๆ
9._____หินดินดาน (shale) ปกติจะมีความสามารถในการซึมผ่านได้สูงเมื่อเปรียบเทียบกับหินชนิดอื่นๆ
10._____น้ำใต้ดิน (groundwater) คือแหล่งทรัพยากรที่ใช้แล้วไม่หมดไป สามารถสร้างมาทดแทนใหม่ได้ทันปริมาณการใช้
11._____ชั้นหินอุ้มน้ำ (aquifer) คือแหล่งกักเก็บหลักของน้ำใต้ดิน
12._____ชั้นหินอุ้มน้ำ (aquifer) ที่อยู่ระหว่าง ชั้นหินขวางน้ำ (aquitard) จะไม่มีน้ำใต้ดินอยู่
13._____บ่อน้ำบาดาลมีแรงดัน (artesian well) ไม่น้ำตลอดทั้งปี
14._____โซนอิ่มอากาศ (vadose zone) โดยส่วนใหญ่เป็น ชั้นหินอุ้มน้ำ (aquifer) ที่ดี
15._____แม่น้ำและทะเลสาบสามารถจ่ายน้ำลงไปเป็นน้ำใต้ดินได้
16._____ความดันชลศาสตร์ (hydraulic head) บางครั้งสามารถดันน้ำขึ้นไปบนภูเขาหรือที่สูงได้
17._____การหยุดสูบน้ำขึ้นมาใช้ช่วยให้ ชั้นหินอุ้มน้ำ (aquifer) สามารถฟื้นฟูให้ระดับน้ำกลับมาที่เดิมได้
18._____น้ำใต้ดินไม่สามารถปนเปื้อนจากน้ำพื้นผิวได้
19._____น้ำใต้ดินที่ปนเปื้อนฟื้นฟูให้ดีขึ้นได้ง่ายกว่าน้ำพื้นผิว
20._____น้ำใต้ดินไม่สามารถใช้เป็นน้ำดื่มได้ทันที เนื่องจากมีสารละลายของแร่ต่างๆ จำนวนมากปนอยู่

3) แบบฝึกหัดปรนัย

คำอธิบาย : ทำเครื่องหมาย X หน้าคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว จากตัวเลือกที่กำหนดให้

1. สัดส่วนของช่องว่างในหินต่อมวลทั้งหมดของหินเรียกว่าอะไร

 ก.ความสามารถในการซึมผ่านได้ข.แรงดึงดูด
 ค.ความหนืดง.ความพรุน

2. ข้อใดคือขอบเขตระหว่าง โซนอิ่มอากาศ (vadose zone) และ โซนอิ่มน้ำ (phreatic zone)

 ก.ชั้นหินอุ้มน้ำ (aquifer)ข.ระดับน้ำใต้ดิน (water table)
 ค.ชั้นหินซับน้ำ (aquiclude)ง.กรวยน้ำลด (cone of depression)

3. น้ำซึ่งอยู่ภายในโซนอิ่มน้ำ (phreatic zone) เรียกว่าอะไร

 ก.ความชื้น (moisture)ข.น้ำใต้ดิน (groundwater)
 ค.น้ำลึก (artesian water)ง.น้ำเค็ม (salt water)

4. หินชนิดใดมีคุณสมบัติเป็น ชั้นหินอุ้มน้ำ (aquifer) ที่ดีที่สุด

 ก.หินแกรนิต (granite)ข.หินแกรบโบ (gabbro)
 ค.หินทราย (sandstone)ง.หินดินดาน (shale)

5. ข้อใดคือผลกระทบจากการสูบน้ำใต้ดินขึ้นมาใช้ในอัตราที่มากกว่าอัตราการเติมน้ำ (recharge) ในธรรมชาติ

 ก.ระดับน้ำใต้ดินลดต่ำลงข.บ่อน้ำที่เจาะตื้นๆ จะแห้ง
 ค.แม่น้ำแห้งในช่วงฝนตกง.ถูกทุกข้อ

6. ข้อใดคือพื้นที่ใกล้พื้นผิวซึ่งช่องว่างระหว่างหินทั้งหมดเต็มไปด้วยน้ำ

 ก.ระดับน้ำใต้ดิน (water table)ข.ระนาบชั้นหิน (bed plane)
 ค.โซนอิ่มน้ำ (phreatic zone)ง.โซนอิ่มอากาศ (vadose zone)

7. ความสามารถของหินหรือตะกอนซึ่งของเหลวสามารถซึมผ่านได้เรียกว่าอะไร

 ก.permeabilityข.permittivity
 ค.porosityง.ไม่มีข้อใดถูก

8. ข้อใดคือ โซนอิ่มน้ำ (phreatic zone)

 ก.ชั้นหินอุ้มน้ำข.ระดับน้ำใต้ดิน
 ค.ชั้นใกล้พื้นผิวซึ่งช่องว่างทั้งหมดเต็มไปด้วยน้ำง.โซนอิ่มอากาศ

9. ข้อใดคือ ชั้นหินอุ้มน้ำ (aquifer)

 ก.หินซึ่งประกอบด้วยน้ำข.หินซึ่งซับน้ำไว้ไม่ให้ไหลผ่านไป
 ค.หินที่น้ำสามารถซึมผ่านได้ง่ายง.หินหรือตะกอนที่น้ำสามารถซึมผ่านได้ง่าย

10. หินชนิดใดมีคุณสมบัติเป็น ชั้นหินอุ้มน้ำ (aquifer) ที่ดีที่สุด

 ก.หินแกรนิต (granite)ข.หินทรายแป้ง (siltstone)
 ค.หินไนส์ (gneiss)ง.ไม่มีข้อใดถูก

11. หินชนิดใดที่มีโอกาสมีความพรุน (porosity) สูงที่สุด

 ก.หินดินดาน (shale)ข.หินทรายแป้ง (siltstone)
 ค.หินกรวดมน (conglomerate)ง.หินทราย (sandstone)

12. หินชนิดใดที่มีความสามารถในการซึมผ่านได้ (permeability) สูงที่สุด

 ก.หินแกรนิต (granite)ข.หินทรายแป้ง (siltstone)
 ค.หินทราย (sandstone)ง.หินดินดาน (shale)

13. ข้อใดคือชั้นบนสุดของ โซนอิ่มน้ำ (saturated zone)

 ก.ระดับน้ำใต้ดิน (water table)ข.ชั้นหินขวางน้ำ (aquitard)
 ค.ชั้นหินอุ้มน้ำ (aquifer)ง.ไม่มีข้อใดถูก

14. ข้อใดคือความเร็วของการไหลของน้ำใต้ดิน (groundwater flow)

 ก.ความดันน้ำข.ความสามารถในการซึมผ่านได้
 ค.ระดับความสูงง.ถูกทุกข้อ

15. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับ การไหลของน้ำใต้ดิน (groundwater flow)

 ก.จากบริเวณที่มีความดันชลศาสตร์ (hydraulic head) สูงไปต่ำข.จากบริเวณที่มีความสามารถในการซึมผ่านได้ (permeability) สูงไปต่ำ
 ค.จากบริเวณที่มีระดับความสูง (elevation) สูงไปต่ำง.ถูกทุกข้อ

16. หากระดับน้ำใต้ดินสูงใกล้เคียงระดับพื้นผิวจะทำให้เกิดอะไร

 ก.น้ำพุ (spring)ข.บ่อน้ำ (well)
 ค.ถ้ำ (cave)ง.ชั้นหินอุ้มน้ำ (aquifer)

17. ข้อใดคือระดับน้ำใต้ดินที่ลดลงโดยรอบบริเวณที่มีการสูบน้ำจากบ่อน้ำบาดาลขึ้นมาใช้มากเกินไป

 ก.artificial rechargeข.artesian well
 ค.cone of depressionง.vadose zone

18. น้ำเค็มที่รุกล้ำเข้ามาใช้ชั้นน้ำใต้ดินโดยส่วนใหญ่เกิดจากสาเหตุใด

 ก.ระดับน้ำขึ้น-น้ำลง (tide) ต่ำอย่างผิดปกติข.เกลือจากการเกษตรกรรมที่พื้นผิวซึมลงไปสู่น้ำใต้ดิน
 ค.ระดับน้ำใต้ดินใกล้ชายฝั่งลดลงง.ถูกทุกข้อ

19. ข้อใดคือแหล่งน้ำทีใหญ่ที่สุด

 ก.ไอน้ำในชั้นบรรยากาศข.น้ำใต้ดิน
 ค.น้ำแข็งขั้วโลกง.มหาสมุทร

20. หยาดน้ำฟ้า (precipitation) ซึ่งไหลซึมลงมาเป็นน้ำใต้ดินคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของหยาดน้ำฟ้าทั้งหมด

 ก.1-20%ข.20-40%
 ค.40-60%ง.ถูกทุกข้อ

21. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับ น้ำพุร้อน (geyser)

 ก.มีอุณหภูมิสูงเสมอข.พบได้ทั่วไปทั่วโลก
 ค.คือน้ำที่เกิดจากภูเขาไฟง.เกิดจากน้ำใต้ดินได้รับความร้อนจากแหล่งความร้อนใต้โลก

22. สัดส่วนของ น้ำใต้ดิน (groundwater) คิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของน้ำบนโลก

 ก.33%ข.25%
 ค.10%ง. < 1%

23. ถ้ำ (cave) เกิดขึ้นได้อย่างไร

 ก.น้ำใต้ดินละลายหินปูนและหินโดโลไมต์ใต้ดินข.การสูบน้ำออกจากชั้นหินอุ้มน้ำ
 ค.น้ำเคลื่อนที่ผ่านชั้นหินอุ้มน้ำง.แมกมาไหลออกจากกระเปาะ

24. หินชนิดใดที่โดยปกติจะมีความพรุน (porosity) มากที่สุด

 ก.หินดินดาน (shale)ข.หินกรวดมน (conglomerate)
 ค.หินทรายแป้ง (siltstone)ง.หินทราย (sandstone)

25. ข้อใดคือกระบวนการเกิดถ้ำ (cave)

 ก.น้ำใต้ดินกัดเซาะหินปูนใต้ดินข.การที่น้ำไหลออกไปจากชั้นหินอุ้มน้ำ
 ค.รอยแตกของชั้นหินเนื่องจากกระบวนการธรณีแปรสัณฐานง.การไหลออกของแมกมาภายในกระเปาะของแมกมาระหว่างการปะทุของภูเขาไฟ

26. หินชนิดใดมีสมบัติเป็น ชั้นหินขวางน้ำ (aquitard)

 ก.หินทรายข.หินดินดาน
 ค.หินชนวนง.หินแกรนิตผุ

27. การที่เทือกเขาสูงแต่มีน้ำไหลออกมาจากเทือกเขาดังกล่าว เนื่องจากภายในภูเขานั้นมีคุณสมบัติเกี่ยวกับชั้นน้ำใต้ดินอย่างไร

 ก.ชั้นหินอุ้มน้ำลอย (perched aquifer)ข.ชั้นหินอุ้มน้ำมีขอบเขต (confined aquifer)
 ค.ชั้นหินอุ้มน้ำไม่มีขอบเขต (unconfined aquifer)ง.ชั้นหินขวางน้ำ (aquitard)

28. ชั้นน้ำแบบใดมีแรงดันมากที่สุดและมีโอกาสก่อให้เกิดน้ำพุ (spring) ได้

 ก.ชั้นหินอุ้มน้ำลอย (perched aquifer)ข.ชั้นหินอุ้มน้ำมีขอบเขต (confined aquifer)
 ค.ชั้นหินอุ้มน้ำไม่มีขอบเขต (unconfined aquifer)ง.ชั้นหินขวางน้ำ (aquitard)

29. ข้อใดคือแหล่งน้ำที่สำคัญและใหญ่ที่สุดในโลก

 ก.ไอน้ำในชั้นบรรยากาศข.น้ำพื้นผิว
 ค.น้ำใต้ดินง.มหาสมุทร

30. ข้อใดคือระดับสูงที่สุดของ โซนอิ่มน้ำ (phreatic zone)

 ก.ระดับน้ำใต้ดิน (water table) .ข.ชั้นหินอุ้มน้ำ (aquifer)
 ค.ความดันชลศาสตร์ (hydraulic head)ง.ชั้นหินขวางน้ำ (aquitard)

31. หินชนิดใดที่มี ความพรุน (porosity) สูงที่สุด

 ก.หินดินดาน (shale)ข.หินกรวดมน (conglomerate)
 ค.หินทรายแป้ง (siltstone)ง.หินทราย (sandstone)

32. หินชนิดใดที่มี ความสามารถในการซึมผ่านได้ (permeability) สูงที่สุด

 ก.หินแกรนิต (granite)ข.หินทราย (sandstone)
 ค.หินทรายแป้ง (siltstone)ง.หินดินดาน (shale)

33. ข้อใดคือตัวควบคุมความเร็วของการไหลของน้ำใต้ดิน

 ก.ความดันน้ำข.ความชันของชั้นน้ำ
 ค.ความสามารถในการซึมผ่านได้ง.ถูกทุกข้อ

34. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับการไหลของน้ำใต้ดิน

 ก.ไหลลงจากเขาเสมอข.ไหลจากพื้นที่ซึ่งมีระดับสูงไประดับต่ำ
 ค.ไหลจากพื้นที่ซึ่งมีความสามารถในการซึมผ่านได้สูงไปต่ำง.ไหลจากพื้นที่ความดันชลศาสตร์สูงไปต่ำ

35. รอยต่อระหว่าง โซนอิ่มน้ำ (saturated zone) และ โซนไม่อิ่มน้ำ (unsaturated zone) เรียกว่าอะไร

 ก.ระดับน้ำใต้ดิน (water table)ข.ชั้นหินซับน้ำ (aquiclude)
 ค.ชั้นหินอุ้มน้ำ (aquifer)ง.ความพรุน (porosity)

36. การซึมผ่าน (infiltration) ของน้ำพื้นผิวลงไปยังใต้ดิน เรียกว่าอะไร

 ก.ไหลเข้ามา (influent)ข.ไหลออกไป (effluent)
 ค.จ่ายน้ำ (discharge)ง.รับน้ำ (recharge)

37. ข้อใดคือชั้นที่น้ำใต้ดินไม่สามารถซึมผ่านได้

 ก.บ่อน้ำบาดาลมีแรงดัน (artesian well)ข.ชั้นหินอุ้มน้ำ (aquifer)
 ค.ชั้นหินซับน้ำ (aquiclude)ง.ไม่มีข้อใดถูก

38. การสูบน้ำขึ้นมาใช้ในปริมาณที่เกินกว่าที่ได้รับจากพื้นที่รับน้ำ ส่งผลอะไรงต่อระบบน้ำใต้ดิน

 ก.ระดับน้ำใต้ดินลดลงข.เกิดกรวยน้ำลด
 ค.บ่อน้ำบาดาลแห้งลงง.ถูกทุกข้อ

39. ข้อใดคือกรดที่พบมากที่สุดในธรรมชาติ

 ก.กรดไนตริก (nitric)ข.กรดคาร์บอนิก (carbonic)
 ค.กรดไฮโดรคลอริก (hydrochloric)ง.กรดซิตริก (citric)

40. ในประเทศไทย น้ำใต้ดินที่ลดลงมีสาเหตุสำคัญมาจากอะไร

 ก.อุตสาหกรรมข.เกษตรกรรม
 ค.น้ำดื่มง.ถูกทุกข้อ

41. หินชนิดใดที่ทำให้เกิดถ้ำได้ง่ายที่สุด

 ก.หินแกรนิต (granite)ข.หินดินดาน (shale)
 ค.หินปูน (limestone)ง.หินทราย (sandstone)

42. หินงอก (stalactite) และ หินย้อย (stalagmite) ในถ้ำมีองค์ประกอบเป็นแร่ชนิดใด

 ก.แร่ควอตซ์ (quartz)ข.แร่ฮีมาไทต์ (hematite)
 ค.แร่เฮไลด์ (halide)ง.แร่แคลไซต์ (calcite)

43. น้ำกระด้าง (hard water) คือน้ำที่มีองค์ประกอบของอะไรปะปนอยู่ในน้ำ

 ก.ตะกั่ว (lead)ข.โซเดียม (sodium)
 ค.แคลเซียม (calcium)ง.ซิลิกอน (silicon)

44. ข้อใดมีความพรุน (porosity) ต่ำที่สุด

 ก.หินดินดาน (shale)ข.กรวด (gravel)
 ค.หินแกรนิต (granite)ง.หินทราย (sandstone)

45. โซนอิ่มน้ำ (saturated zone) และ โซนไม่อิ่มน้ำ (unsaturated zone) มีความแตกต่างกันอย่างไร

 ก.โซนอิ่มน้ำมีความพรุนสูงกว่าโซนไม่อิ่มน้ำข.โซนอิ่มน้ำมีความพรุนต่ำกว่าโซนไม่อิ่มน้ำ
 ค.รูพรุนในโซนอิ่มน้ำมีน้ำอยู่เต็ม แต่โซนไม่อิ่มน้ำมีน้ำบางส่วนง.รูพรุนในโซนอิ่มน้ำมีน้ำบางส่วน แต่โซนไม่อิ่มน้ำมีน้ำอยู่เต็ม

46. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับ ธารน้ำให้น้ำ (influent stream)

 ก.พบได้โดยทั่วไปในพื้นที่แห้งแล้งข.พบได้โดยทั่วไปในพื้นที่ชุ่มชื้น
 ค.พบเฉพาะในพื้นที่หนาวเย็นง.พบในบริเวณหลุมยุบ

47. หินชนิดใดที่เกิดถ้ำได้ง่ายที่สุด

 ก.หินแกรนิต (granite)ข.หินดินดาน (shale)
 ค.หินปูน (limestone)ง.หินทราย (sandstone)

48. หลุมยุบ (sinkhole) คืออีกรูปแบบหนึ่งของธรณีภัยพิบัติ ซึ่งโดยส่วนใหญ่เกิดในบริเวณที่มีหินชนิดใด

 ก.หินแกรนิต (granite)ข.หินทราย (sandstone)
 ค.หินดินดาน (shale)ง.หินปูน (limestone)

49. ข้อใดคือแหล่งน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุด

 ก.บรรยากาศ (atmosphere)ข.ชีวภาค (biosphere)
 ค.น้ำใต้ดิน (groundwater)ง.แม่น้ำ (river)

50. นักวิทยาศาสตร์ประเมินว่าน้ำที่ถูกกักเก็บในชั้นหินอุ้มน้ำใต้ดินมีประมาณเท่าใดของน้ำทั้งหมดที่มีอยู่ในโลก

 ก. < 1%ข.5%
 ค.10%ง.20%

51. สัดส่วนของปริมาตรโดยรวมของหินต่อช่องว่างที่อยู่ภายในหินเรียกว่าอะไร

 ก.ความสามารถในการซึมผ่านได้ (permeability)ข.พื้นที่รับน้ำ (recharge area)
 ค.ชั้นหินอุ้มน้ำ (aquifer)ง.ความพรุน (porosity)

52. แหล่งน้ำใต้ดินที่ดีควรมีคุณสมบัติอย่างไร

 ก.ความสามารถในการซึมผ่านได้ต่ำและความพรุนต่ำข.ความสามารถในการซึมผ่านได้สูงและความพรุนต่ำ
 ค.ความสามารถในการซึมผ่านได้ต่ำและความพรุนสูงง.ความสามารถในการซึมผ่านได้สูงและความพรุนสูง

53. ความสามารถของวัสดุที่อนุญาตให้น้ำไหลผ่านไปได้เรียกว่าอะไร

 ก.porosityข.chemical cement
 ค.aquiferง.permeability

54. การลดระดับน้ำใต้ดินไปถึงฐานล่างของบ่อน้ำบาดาลเนื่องจากการสูบน้ำขึ้นมาใช้มากเกินไปเรียกว่าอะไร

 ก.บ่อน้ำบาดาลมีแรงดัน (artesian well)ข.กรวยน้ำลด (cone of depression)
 ค.ชั้นหินซับน้ำ (aquiclude)ง.ตะกอนหินปูน (speleothem)

55. ระดับน้ำใต้ดินท้องถิ่นที่สูงกว่าระดับน้ำใต้ดินโดยรวมในภูมิภาคเรียกว่าอะไร

 ก.strandedข.perched
 ค.depressedง.displaced

56. ข้อใดคือหลักฐานที่บ่งชี้ว่าพื้นที่นั้นมีภูมิประเทศแบบคาร์สต์ (karst topography)

 ก.หลุมยุบ (sinkhole)ข.ตะกอนหินปูน (speleothem)
 ค.บ่อน้ำบาดาลมีแรงดัน (artesian well)ง.กรวยน้ำลด (cone of depression)

57. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับ บ่อน้ำบาดาลมีแรงดัน (artesian well)

ก.บ่อน้ำที่มีน้ำใช้ได้โดยไม่ต้องสูบขึ้นมาข.บ่อน้ำที่มีน้ำใช้ได้โดยต้องสูบขึ้นมา
 ค.พัฒนาได้ในชั้นหินขวางน้ำง.บ่อน้ำที่มีการพัฒนากรวยน้ำลด เมื่อมีการสูบน้ำขึ้นมาใช้

58. ข้อใดคือปริมาณไอน้ำในอากาศที่ระดับอุณหภูมิใดๆ

 ก.จุดน้ำค้าง (dew point)ข.อัตราหยาดน้ำฟ้า (precipitation rate)
 ค.อัตราการระเหย (evaporation rate)ง.ความชื้นสัมพัทธ์ (relative humidity)

59. พื้นที่ใดเสี่ยงต่อการปนเปื้อนของน้ำใต้ดิน

 ก.บ่อขยะข.พื้นที่เกษตรกรรม
 ค.สถานีจ่ายน้ำมันง.ถูกทุกข้อ

60. ข้อใดแสดงความสัมพันธ์ของวัฏจักรอุทกวิทยา (hydrological cycle) ถูกต้อง

 ก.หยาดน้ำฟ้า = การระเหย -น้ำท่าข.หยาดน้ำฟ้า = น้ำท่า – การระเหย
 ค.หยาดน้ำฟ้า = การระเหย + น้ำท่าง.หยาดน้ำฟ้า = การระเหย x น้ำท่า

61. หินชนิดใดที่มี ความสามารถในการซึมผ่านได้ (permeability) สูงที่สุด

 ก.หินดินดานที่ไม่มีรอยแตกข.หินทรายที่มีการเชื่อมประสาน
 ค.หินทรายไม่มีการเชื่อมประสานง.ถูกทุกข้อ

62. ข้อใดกล่าวผิดเกี่ยวกับ ระดับน้ำใต้ดิน (water table)

 ก.เปลี่ยนแปลงได้หากพื้นที่จ่ายน้ำไม่สมดุลกับพื้นที่รับน้ำข.ในทะเลสาบจะสูงกว่าพื้นผิวโลก
 ค.โดยปกติระดับจะราบเรียบง.ลดลงในบริเวณที่มีการสูบน้ำขึ้นมาใช้

63. โซนอิ่มน้ำ (saturated zone) คืออะไร

 ก.ชั้นหินอุ้มน้ำ (aquifer)ข.บริเวณใกล้พื้นผิวซึ่งรูพรุนเต็มไปด้วยน้ำ
 ค.ระดับน้ำใต้ดิน (water table) .ง.เหมือนกับ โซนอิ่มอากาศ (vadose zone)

64. ชั้นหินอุ้มน้ำ (aquifer) คืออะไร

 ก.ชั้นหินซึ่งประกอบด้วยน้ำข.ชั้นหินขัดขวางการไหลของน้ำ
 ค.ชั้นหินที่มีความสามารถในการซึมผ่านได้ง.หินหรือตะกอนซึ่งน้ำสามารถเคลื่อนผ่านได้ง่าย

65. หินชนิดใดที่มีโอกาสเป็นชั้นหินอุ้มน้ำ (aquifer) ที่ดี

 ก.หินไนส์ (gneiss)ข.หินแกรนิต (granite)
 ค.หินทรายแป้ง (siltstone)ง.ไม่มีข้อใดถูก

66. ถ้ำ (cave) โดยส่วนใหญ่เกิดจากกระบวนการใด

ก.น้ำใต้ดินละลายหินปูนและหินโดโลไมต์ข.ชั้นหินอุ้มน้ำถูกสูบน้ำไปใช้
 ค.น้ำเคลื่อนที่ผ่านชั้นหินอุ้มน้ำและละลายชั้นหินง.การปะทุออกไปของแมกมาในกระเปาะแมกมา

67. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับ ธารน้ำรับน้ำ (effluent stream)

ก.น้ำไหลออกจากธารน้ำไปยังโซนอิ่มน้ำข.น้ำไหลออกจากธารน้ำไปยังโซนอิ่มอากาศ
 ค.น้ำไหลออกจากโซนอิ่มน้ำไปยังธารน้ำง.น้ำไหลออกจากโซนอิ่มอากาศไปยังธารน้ำ

68. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับ น้ำพุร้อน (hot spring)

ก.เกิดจากน้ำใต้ดินได้รับความร้อนจากแหล่งความร้อนใต้ดินข.น้ำใต้ดินระดับลึกที่มีแรงดันเนื่องจากการเอียงเทของหิน
 ค.ภูเขาไฟของน้ำง.ไม่มีข้อใดถูก

69. ข้อใดคือกระบวนการทำให้น้ำเข้าไปอยู่ตามรูปพรุนของชั้นหินได้

ก.transpirationข.inflitration
 ค.precipationง.sublimation

70. ข้อใดกล่าวถูกต้อง

ก.อากาศเย็นยึดไอน้ำได้ดีกว่าอากาศอบอุ่นข.อากาศอบอุ่นยึดไอน้ำได้ดีกว่าอากาศเย็น
 ค.อากาศเย็นและอากาศอบอุ่นยึดไอน้ำได้ใกล้เคียงกันง.อากาศไม่สามารถยึดไอน้ำได้

เฉลยแบบฝึกหัด

1) แบบฝึกหัดจับคู่

1. 2. 3. 4. 5.
6. 7. 8. 9. 10.
11.            

2) แบบฝึกหัดถูก-ผิด

1.F 2.T 3.F 4.T 5.F
6.T 7.T 8.T 9.F 10.F
11.T 12.F 13.F 14.F 15.T
16.T 17.T 18.F 19.F 20.F

3) แบบฝึกหัดปรนัย

1. 2. 3. 4. 5.
6. 7. 8. 9. 10.
11. 12. 13. 14. 15.
16. 17. 18. 19. 20.
21. 22. 23. 24. 25.
26. 27. 28. 29. 30.
31. 32. 33. 34. 35.
36. 37. 38. 39. 40.
41. 42. 43. 44. 45.
46. 47. 48. 49. 50.
51. 52. 53. 54. 55.
56. 57. 58. 59. 60.
61. 62. 63. 64. 65.
66. 67. 68. 69. 70.

4) แบบฝึกหัดอัตนัย

คำอธิบาย : ตอบคำถามให้กระชับและสมบูรณ์เกี่ยวกับวัตถุ กระบวนการหรือปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อกับโลกศาสตร์

1. น้ำใต้ดิน (groundwater) คืออะไรและมีความสำคัญอย่างไร

 
 
 

2. น้ำใต้ดิน (groundwater) และ น้ำพื้นผิว (surface) เช่น แม่น้ำต่างๆ มีปฏิสัมพันธ์กันอย่างไร

 
 
 

3. อธิบายความแตกต่างระหว่างลักษณะเฉพาะของ ชั้นหินอุ้มน้ำ (aquifer) และ ชั้นหินขวางน้ำ (aquitard)

 
 
 

4. ระดับน้ำใต้ดิน (water table) และปัจจัยควบคุมความชันและความลึกของระดับน้ำใต้ดินคืออะไร

 
 
 

5. ผลกระทบที่เกิดจากการนำน้ำใต้ดินมาใช้มากเกินไปมีอะไรบ้าง

 
 
 

6. สาเหตุของการปนเปื้อนน้ำใต้ดินมีอะไรบ้าง

 
 
 

7. ความพรุน (porosity) และ ความสามารถในการซึมผ่านได้ (permeability) คืออะไร และมีความแตกต่างกันอย่างไร

 
 
 

8. การสูบน้ำน้ำใต้ดินขึ้นมาใช้ส่งผลอย่างไรกับรูปร่างของ ระดับน้ำใต้ดิน (water table)

 
 
 

9. อธิบายลักษณะเฉพาะและกระบวนการเกิด ภูมิประเทศแบบคาร์สต์ (karst topography)

 
 
 

10. อธิบาย กฎของดาร์ซี (Darcy’s Law) ที่สัมพันธ์กับน้ำใต้ดิน

 
 
 

. . .
บทความล่าสุด : www.mitrearth.org
เยี่ยมชม facebook : มิตรเอิร์ธ – mitrearth

Share:
Slot Toto Slot Gacor Maxwin slot thailand slot toto slot resmi slot thailand slot qris slot gacor maxwin slot gacor maxwin Slot Gacor Maxwin Slot Gacor Maxwin 2024 Situs Slot Gacor 777 Situs Slot Gacor Toto Slot Gacor 2024 Maxwin Slot Gacor Terbaik Slot Gacor 4D Slot Gacor Terpopuler slot gacor maxwin slot toto gacor scatter hitam slot thailand slot777 slot maxwin slot thailand slot toto gacor slot gacor 777 Slot Gacor Thailand slot88 maxwin slot thailand 2024